1.เลือกประเภทของเต็นท์ เต็นท์ขายของหลักๆจะมีอยู่ 2 แบบ เต็นท์พับและเต็นท์ประกอบ
🔸 เต็นท์พับ จะสะดวกในการตั้งและการขนย้าย เพราะแค่กางออกมาก็สามารถใช้งานได้แล้ว แถมไม่ต้องใช้คนเยอะ เพราะอุปกรณ์ทั้งหมดจะติดมาด้วยกันอยู่แล้ว เหมาะสำหรับคนที่เคลื่อนย้ายบ่อยหรือออกตลาดบ่อยๆ
🔸 เต็นท์ประกอบ เป็นเต็นท์ขายของที่ต้องนำชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบกัน ทั้งโครงเหล็ก เสา ข้อต่อ ผ้าใบต่างๆ ซึ่งผ้าใบจะทำหน้าที่กันแดด กันฝนได้แบบดีเยี่ยม แถมมีสีสันสวยงาม สามารถดึงดูดลูกค้าได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการประกอบนานพอสมควร ถ้าใครมีพื้นที่ขายของเป็นที่ประจำอยู่แล้ว ไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย แนะนำเป็นเต็นท์ขายของแบบประกอบเลยค่ะ
2.เลือกขนาดของเต็นท์ ส่วนใหญ่เต็นท์ขายของที่เขาใช้กันจะเป็นทรงจัตุรัส เพราะมีขนาดเล็ก ขนย้ายง่าย เพราะหากเกิดลมแรง ฝนตก เราสามารถเก็บของขนย้ายเองได้สบายๆ ไม่เป็นภาระกับเรามาก ถ้าเจ้าของพื้นที่ไม่ได้กำหนดขนาดของเต็นท์ เราอาจจะเลือกเต็นท์ขายของที่มีขนาดเบสิค 1.5×1.5 , 2×2 เมตรขึ้นไป กำลังพอดีๆ ไม่เล็กไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป แถมไม่มีเสากลางมาให้เกะกะ แต่ถ้าต้องการขายของเรียงกันเยอะๆ อาจจะเลือกเป็นเต็นท์ขายของขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2×3 , 2×4 เพราะจะทำให้เราสามารถเรียงโชว์สินค้าได้หลากหลาย
3.คุณภาพของผ้าใบ เป็นส่วนประกอบสำคัญของเต็นท์ขายของ เพราะผ้าใบแต่ละประเภทจะมีการใช้งานที่ต่างกัน
🔸 ผ้าใบ 600 D เป็นผ้าใบที่สองด้านไม่เหมือนกัน ด้านนึงเป็นยางเคลือบและอีกด้านเป็นเนื้อผ้า กันน้ำได้ แถมใช้ได้นานประมาณ 3 ปีขึ้นไป
🔸 ผ้าใบคูนิล่อน เป็นผ้าใบเคลือบพีวีซี เสริมด้วยไนล่อน กันแดด กันฝนได้ดีมาก กันน้ำได้เช่นกัน
🔸 ผ้าใบ 420 D Nylon เป็นผ้าใบใยสังเคราะห์ชนิดไนล่อน ใช้กับเต็นท์ขนาดเล็กหรือเต็นท์พับ ใช้ได้ประมาณ 1-2 ปี
4.โครงสร้างของเต็นท์ การเลือกเหล็กโครงสร้างของเต็นท์ขายของก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสามารถทำให้เต็นท์ขายของแข็งแรง ทนลม ทนฝนได้ ซึ่งเหล็กตามท้องตลาดก็มีหลายประเภท แต่เราจะมาแนะนำแค่ 3 แบบ
🔸 เหล็ก Pipe กล่องเหลี่ยม จะเอาไว้ใช้ในโครงร่ม หรือโครงของเต็นท์พับได้ มีน้ำหนักเบา ราคาถูก แต่อาจจะใช้ได้ไม่นานมากนัก
🔸 เหล็กท่อดำ ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในโครงสร้างเต็นท์ขายของแบบประกอบ ลักษณะเป็นท่อกลม ไม่มีเกลียว หนา แข็งแรง ราคาไม่สูงมาก
🔸 เหล็กท่อแป๊ปประปา หลายคนคงรู้จักกันดี นำเหล็กแป๊ปท่อดำมาซุบซิงค์เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
5.สีของเต็นท์ การเลือกสีให้กับเต็นท์ขายของ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของร้านเช่นกัน เพราะเราสามารถเลือกให้เหมาะกับสินค้าที่เราขายได้
นอกจากเต็นท์ขายของจะเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ประกอบอาชีพค้าขายแล้ว ยังช่วยทำให้หน้าร้านของเราดูดี สวยงาม แถมดึงดูดลูกค้าได้อีกด้วยน้า ดังนั้นเราจึงต้องเลือกเต็นท์ขายของให้เหมาะสมและทนทาน เพื่อใช้ได้ยาวนานให้มากที่สุด ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่แต่ละตลาดด้วย และหากซื้อมาแล้วแนะนำให้ทดลองใช้งานที่บ้านดูก่อน ว่าทำได้หรือไม่ หรืออาจจะต้องหาคนติดตั้ง จะได้ไม่เสียเวลาในการขายของกันนะคะ
ขอบคุณที่มา | https://salehere.co.th/articles/how-to-choose-gazebo-tent